หลักสูตรโรงเรียน

|
อ่านเพิ่มเติม »










กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน


















กิจกรรมแนะแนว

หลักการ
                 เป็นกิจกรรมที่จัดให้สอดคล้องกับสภาพปัญหา  ความต้องการ  ความสนใจ   ธรรมชาติของผู้เรียน  และวิสัยทัศน์ของสถานศึกษาที่ตอบสนองจุดมุ่งหมายของหลักสูตรแกนกลางการศึกษา      ขั้นพื้นฐาน  พุทธศักราช ๒๕๕๑  ให้ครอบคลุมทั้งด้านการศึกษา  การงาน  และอาชีพ  ชีวิตและสังคม  เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ  ผู้เรียนมีอิสระในการคิดและตัดสินใจด้วยตนเอง  เรียนรู้ด้วยตนเอง  ด้วยการปฏิบัติจนกระทั่งเกิดทักษะชีวิต  หรือการเรียนรู้ตลอดจนครูทุกคนมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรม  โดยมีครูแนะแนวเป็นพี่เลี้ยงและประสานงาน 

วัตถุประสงค์
                 ๑.  เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้  รู้จัก  เข้าใจ  และเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่น
                 ๒.  เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้  สามารถวางแผนการเรียน  อาชีพ  รวมทั้งการดำเนินชีวิตและสังคม
                 ๓.  เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้  สามารถปรับตัวได้อย่างเหมาะสม  และอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข

ขอบข่าย
                 การจัดกิจกรรมแนะแนวมีองค์ประกอบ  ๓  ด้าน  ดังนี้
                 ๑.  ด้านการศึกษา  ให้ผู้เรียนได้พัฒนาตนเองในด้านการเรียนอย่างเต็มตามศักยภาพ  รู้จักแสวงหาและใช้ข้อมูลประกอบการวางแผนการเรียนหรือการศึกษาต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ  มีนิสัยใฝ่รู้ใฝ่เรียน  มีวิธีการเรียนรู้  และสามารถวางแผนการเรียนหรือการศึกษาต่อได้อย่างเหมาะสม
                 ๒.  ด้านการงานและอาชีพ  ให้ผู้เรียนได้รู้จักตนเองในทุกด้าน  รู้และเข้าใจโลกของงานอาชีพอย่างหลากหลาย  มีเจตคติที่ดีต่ออาชีพสุจริต  มีการเตรียมตัวสู่อาชีพ  สามารถวางแผนเพื่อประกอบอาชีพตามที่ตนเองมีความถนัดและสนใจ
                 ๓.  ด้านชีวิตและสังคม  ให้ผู้เรียนรู้จักและเข้าใจตนเอง  รักและเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่น  รักษ์สิ่งแวดล้อม  มีวุฒิภาวะทางอารมณ์  มีเจตคติที่ดีต่อการมีชีวิตที่ดีมีคุณภาพ  มีทักษะและสามารถปรับตัวให้ดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข


แนวการจัดกิจกรรม
                 ๑.  จัดกิจกรรมให้สอดคล้องกับสภาพปัญหา ความต้องการและธรรมชาติของผู้เรียน
            ๒. จัดกิจกรรมเพื่อผู้เรียนทุกคนในสถานศึกษา ให้ครอบคลุมเนื้อหาสาระด้านการพัฒนาตนเอง การศึกษา และอาชีพ
            ๓.  ประสานความร่วมมือให้ผู้เกี่ยวข้องกับผู้เรียนทุกฝ่าย นับตั้งแต่ผู้บริหาร ครูทุกคน ผู้ปกครอง ชุมชน ร่วมมีบทบาทและมีส่วนร่วมในการดำเนินการ ให้ความร่วมมือและสนับสนุนให้การจัดกิจกรรมดำเนินไปด้วยความสะดวกอย่างมี ประสิทธิภาพ
                    ๔.  จัดกิจกรรมชั่วโมงแนะแนว  ๑ ชั่วโมง : ๑ สัปดาห์  ระดับประถมศึกษาเป็นรายปีการศึกษา  ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นเป็นภาคเรียนที่ ๑  และ  
                    ๕.  จัดกิจกรรมด้านการศึกษา  มีรูปแบบการจัดกิจกรรม  ๒  ลักษณะ  คือ
              ๕.๑  การจัดกิจกรรมแนะแนวในชั้นเรียน
                             - กิจกรรมคาบแนะแนวทุกระดับชั้น
                             - กิจกรรมโฮมรูม
               ๕.๒  การจัดกิจกรรมแนะแนวนอกชั้นเรียน เช่น
                              - กิจกรรมกลุ่มทางจิตวิทยาและการแนะแนว
                            - การทัศนศึกษาแหล่งวิทยาการและสถานประกอบการ
                            - การเชิญผู้ปกครอง ผู้ทรงคุณวุฒิ ศิษย์เก่าเป็นวิทยากรให้ความรู้
                            - การจัดนิทรรศการ
                            - การจัดป้ายนิเทศ
                            - การปฐมนิเทศ
                            - การปัจฉิมนิเทศ
                             - กิจกรรมเพื่อนช่วยเพื่อน
                             - กิจกรรมพี่ช่วยน้อง
๖.  จัดกิจกรรมด้านการงานและอาชีพ  มีแนวการจัดกิจกรรมดังนี้
          ๖.๑  รู้ข้อมูลตนเองเพื่อการวางแผนงานอาชีพ เช่น ความถนัด ความสามารถ ความสนใจ จุดเด่น จุดด้อยของตนเอง
                        ๖.๒  รู้และเข้าใจในธรรมชาติและคุณลักษณะของอาชีพ มีเจตคติที่ดีต่ออาชีพสุจริต  เห็นคุณค่าของการทำงาน
                        ๖.๓   มีความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางการศึกษาเพื่อเข้าสู่งานอาชีพ
          ๖.๔  มีเป้าหมายชีวิต รู้จักวางแผนชีวิตการเรียน การงาน ที่เหมาะสมกับความถนัด ความสนใจ และสภาพการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและเทคโนโลยี
                          ๖.๕  มีคุณลักษณะพื้นฐานที่จำเป็นในการเตรียมตัวสู่โลกของงานอาชีพ
๗.     จัดกิจกรรมด้านชีวิตและสังคม  มีแนวการจัดกิจกรรมดังนี้
๗.๑  รู้จักและเข้าใจตนเอง รักและเห็นคุณค่าในตนเอง
๗.๒  เข้าใจและยอมรับผู้อื่น
๗.๓  มีทักษะในการดำเนินชีวิต สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพสังคม สิ่งแวดล้อม
ที่เปลี่ยนไปได้อย่างเหมาะสม และสามารถดำเนินชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข
                             ๗.๔ รู้จักตัดสินใจและแก้ปัญหา รวมทั้งสามารถปรับตัวต่อสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตอย่างเหมาะสม
๗.๕  มีคุณธรรม จริยธรรม เป็นคนดีในสังคม อยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความสุข
๗.๖  รู้จักหลีกเลี่ยงอบายมุข สารเสพติด การพนัน หรือสิ่งที่เป็นอันตรายต่อชีวิต
๗.๗  มีวุฒิภาวะทางอารมณ์

การประเมินผลการจัดกิจกรรม
                 ในการการประเมินการจัดกิจกรรมแนะแนว  ครูผู้รับผิดชอบการจัดกิจกรรมแนะแนว  ผู้เรียน  และผู้ปกครอง  มีภารกิจที่รับผิดชอบ  ดังนี้
                 ๑.  ครูผู้จัดกิจกรรมแนะแนว 
                       ๑.  จัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาผู้เรียน  ให้เกิดคุณลักษณะตามวัตถุประสงค์  สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ที่สถานศึกษากำหนดและตามสภาพความต้องการและปัญหาของผู้เรียน
                       ๑.  รายงานเวลาและพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรม
                       ๑.  ศึกษา  ติดตาม  และพัฒนาผู้เรียนในกรณีที่ผู้เรียนไม่เข้าร่วมกิจกรรม
                       ๑.  ประเมินผลผู้เรียน  โดยดูจากพัฒนาการของผู้เรียนตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดเป็นสำคัญ  ในกรณีที่ผลการประเมินยังไม่ผ่านให้ครูผู้จัดกิจกรรมดำเนินการซ่อมเสริมโดยผู้เรียนปฏิบัติกิจกรรมซ้ำหรือปฏิบัติกิจกรรมเพิ่มเติม  จนกระทั่งผู้เรียนบรรลุคุณลักษณะตามวัตถุประสงค์ของกิจกรรมหรือผ่านการประเมินตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด
                       ๑.  บันทึกผลการติดตามและประเมินผลผู้เรียนไว้เป็นหลักฐาน



                 ๒.  ผู้เรียน
                       ๒.  ผู้เรียนมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมไม่น้อยกว่า ร้อยละ 80 ของเวลาเรียนทั้งหมด โดยมีหลักฐานแสดงเวลาการเข้าร่วมกิจกรรม
                       ๒.  ปฏิบัติกิจกรรมตามที่ครูผู้รับผิดชอบมอบหมาย  ถ้าไม่ผ่านให้ปฏิบัติกิจกรรมซ้ำหรือปฏิบัติเพิ่มเติม  และมีชิ้นงาน/ผลงาน/คุณลักษณะตามที่ครูผู้จัดกิจกรรมมอบหมายให้ปฏิบัติ
                 ๓.  ผู้ปกครองควรมีส่วนร่วมในการประเมินผลพัฒนาการของผู้เรียน  และมีการบันทึกสรุปพัฒนาการและการปฏิบัติกิจกรรมของผู้เรียน























กิจกรรมลูกเสือ - เนตรนารี

หลักการ
                 กระบวนการลูกเสือโรงเรียนบ้านสร้อยพร้าว มีหลักการสำคัญ  คือ โรงเรียนบ้านสร้อยพร้าวได้จัดกิจกรรมให้ผู้เรียนทุกคนเข้าร่วมกิจกรรมให้เหมาะสมกับวัย  วุฒิภาวะ  และความแตกต่างระหว่างบุคคลของผู้เรียน โดยคำนึงถึงสิ่งต่อไปนี้
                   ๑.  มีศาสนาเป็นหลักยึดทางจิตใจ  จงรักภักดีต่อศาสนาที่ตนเคารพนับถือ  และพึงปฏิบัติศาสนกิจด้วยความจริงใจ
                   ๒.  จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์และประเทศชาติของตน  พร้อมด้วยการส่งเสริมและสนับสนุนสันติสุขและสันติภาพ  ความเข้าใจที่ดีซึ่งกันและกัน  และความร่วมมือซึ่งกันและกันตั้งแต่ละระดับท้องถิ่น  ระดับชาติ  และระดับนานาชาติ
                   ๓.  เข้าร่วมพัฒนาสังคม  ยอมรับ  และให้ความเคารพในเกียรติและศักดิ์ศรีของผู้อื่นและเพื่อนมนุษย์ทุกคน  รวมทั้งธรรมชาติและสรรพสิ่งทั้งหลายในโลก
                   ๔.  มีความรับผิดชอบต่อการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง
                   ๕.  ลูกเสือทุกคนต้องยึดมั่นในคำปฏิญาณและกฎของลูกเสือ

วัตถุประสงค์
                 พระราชบัญญัติลูกเสือ  พ.ศ.๒๕๕๑  มาตรา ๘ ได้กำหนดวัตถุประสงค์ของการฝึกอบรมลูกเสือเพื่อพัฒนาลูกเสือทั้งทางกาย  สติปัญญา  จิตใจ  และศีลธรรมให้เป็นพลเมืองดี  มีความรับผิดชอบและช่วยสร้างสรรค์สังคม  ให้เกิดความสามัคคี  และมีความเจริญก้าวหน้า  ทั้งนี้เพื่อความสงบสุขและความมั่นคงของประเทศชาติตามแนวทางดังต่อไปนี้
                   ๑.  ให้มีนิสัยในการสังเกต  จดจำ  เชื่อฟัง  และพึ่งตนเอง
                   ๒.  ให้มีความซื่อสัตย์สุจริต  มีระเบียบวินัย  และเห็นอกเห็นใจผู้อื่น
                   ๓.  ให้รู้จักบำเพ็ญตนเพื่อสาธารณประโยชน์
                   ๔.  ให้รู้จักทำการฝีมือและฝึกฝนการทำกิจกรรมต่าง ๆ ตามความเหมาะสม
                   ๕.  ให้รู้จักรักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี  วัฒนธรรม  และความมั่นคงของประเทศชาติ



ขอบข่าย
                 กิจกรรมลูกเสือ  เนตรนารี  เป็นกิจกรรมที่มุ่งปลูกฝังระเบียบวินัยและกฎเกณฑ์  เพื่อการอยู่ร่วมกัน  ให้รู้จักการเสียสละและบำเพ็ญประโยชน์แก่สังคมและวิถีชีวิตในระบอบประชาธิปไตย  ซึ่งการจัดกิจกรรมลูกเสือ  เนตรนารี  ให้เป็นไปตามข้อบังคับของสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ  รวมทั้งให้สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน  พุทธศักราช ๒๕๕๑    โดยกำหนดหลักสูตรเป็น  ๔  ประเภท  ดังนี้
                 ๑.  ลูกเสือสำรอง                         ชั้นประถมศึกษาปีที่  ๑-
                 ๒.  ลูกเสือสามัญ                         ชั้นประถมศึกษาปีที่  ๔-
                 ๓.  ลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่          ชั้นมัธยมศึกษาปีที่  ๑-
                 ๔.  ลูกเสือวิสามัญ                       ชั้นมัธยมศึกษาปีที่  ๔-
              
  โรงเรียนบ้านสร้อยพร้าว  ได้กำหนดหลักสูตรลูกเสือ เนตรนารี เป็น  ๓ ประเภท คือ 
                 ๑.  ลูกเสือสำรอง                         ชั้นประถมศึกษาปีที่  ๑-
                 ๒.  ลูกเสือสามัญ                         ชั้นประถมศึกษาปีที่  ๔-
                 ๓.  ลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่          ชั้นมัธยมศึกษาปีที่  ๑-

แนวการจัดกิจกรรม
                 การจัดกิจกรรมลูกเสือ  เนตรนารี  มีแนวทางการจัดกิจกรรมตามวิธีการลูกเสือ (Scout  Method)  ซึ่งมีองค์ประกอบ  ๗  ประการ  คือ
                       ๑.  คำปฏิญาณและกฎ  ถือเป็นหลักเกณฑ์ที่ลูกเสือทุกคนให้คำมั่นสัญญาว่าจะปฏิบัติตามกฎของลูกเสือ  กฎของลูกเสือมีไว้ให้กับลูกเสือเป็นหลักในการปฏิบัติ  ไม่ได้ ห้าม ทำ  หรือ
บังคับ  ทำ  แต่ถ้า ทำ  ก็จะทำให้เกิดผลดีแก่ตนเอง  เป็นคนดี  ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้มีเกียรติเชื่อถือได้  ฯลฯ
                       ๒.  เรียนรู้จากการกระทำ  เป็นการพัฒนาส่วนบุคคล  ความสำเร็จหรือไม่สำเร็จของผลงานอยู่ที่การกระทำของตนเอง  ทำให้มีความรู้ที่ชัดเจน  และสามารถแก้ปัญหาต่าง ๆ ด้วยตนเองได้  และท้ายทายความสามารถของตนเอง
                       ๓.  ระบบหมู่  เป็นรากฐานอันแท้จริงของการลูกเสือ เป็นพื้นฐานในการอยู่ร่วมกัน  การยอมรับซึ่งกันและกัน  การแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบ  การช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน  เป็นการเรียนรู้การใช้ประชาธิปไตยเบื้องต้น
                       ๔.  การใช้สัญลักษณ์ร่วมกัน  ฝึกให้มีความเป็นหนึ่งเดียวในการเป็นสมาชิกลูกเสือ  เนตรนารี  ด้วยการใช้สัญลักษณ์  ได้แก่  เครื่องแบบ  เครื่องหมาย  การทำความเคารพ  รหัส  คำปฏิญาณ  กฎ  คติพจน์  คำขวัญ  ธง  เป็นต้น  วิธีการนี้จะช่วยให้ผู้เรียนตระหนักและภาคภูมิใจใน
การเป็นสมาชิกขององค์การลูกเสือแห่งโลก  ซึ่งมีสมาชิกอยู่ทั่วโลกและเป็นองค์กรที่มีจำนวนสมาชิกมากที่สุดในโลก
                       ๕.  การศึกษาธรรมชาติ  คือ  สิ่งสำคัญอันดับหนึ่งในกิจกรรมลูกเสือ  ธรรมชาติอันโปร่งใสตามชนบท  ป่าเขา  ป่าละเมาะ  และพุ่มไม้  เป็นที่ปรารถนาอย่างยิ่งในการไปทำกิจกรรมกับธรรมชาติ  การปีนเขา  ตั้งค่ายพักแรมในสุดสัปดาห์  หรือตามวาระของการอยู่ค่ายพักแรมตามกฎระเบียบ  เป็นที่เสน่หาแก่เด็กทุกคน  ถ้าขาดสิ่งนี้แล้ว  ก็ไม่เรียกว่าใช้ชีวิตแบบลูกเสือ
                       ๖.  ความก้าวหน้าในการร่วมกิจกรรม  กิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดให้เด็กทำ  ต้องให้มีความก้าวหน้าและดึงดูดใจ  สร้างให้เกิดความกระตือรือร้น  อยากที่จะทำและวัตถุประสงค์ในการจัดแต่ละอย่างให้สัมพันธ์กับความหลากหลายในการพัฒนาตนเอง  เกมการเล่นที่สนุกสนาน  การแข่งขัยกันก็เป็นสิ่งดึงดูดใจและเป็นการจูงใจที่ดี
                       ๗.  การสนับสนุนโดยผู้ใหญ่  ผู้ใหญ่เป็นผู้ที่ชี้แนะหนทางที่ถูกต้องให้แก่เด็ก  เพื่อให้เขาเกิดความมั่นใจในการที่จะตัดสินใจกระทำสิ่งใดลงไป  ทั้งคู่มีความต้องซึ่งกันและกัน  เด็กก็ต้องการผู้ใหญ่ช่วยชี้นำ  ผู้ใหญ่เองก็ต้องการนำพาให้ไปสู่หนทางที่ดี  ให้ได้รับการพัฒนาอย่างถูกต้องและดีที่สุด  จึงเป็นการร่วมมือกันทั้งสองฝ่าย

เงื่อนไข
                 ๑.   เวลาในการเข้าร่วมกิจกรรม
                       การจัดกิจกรรมลูกเสือ  เนตรนารีตาม โรงเรียนบ้านสร้อยพร้าวได้กำหนดเวลาในการเข้าร่วมกิจกรรมตามหลักสูตรในแต่ละระดับชั้น  ดังนี้
                              ๑.๑  ระดับประถมศึกษา  (ป.๑ - ป.๖) กำหนดเวลาในการเข้าร่วมกิจกรรม
ปีละ  ๔๐ ชั่วโมง 
                               ๑.๒  ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น  (ม.๑ - ม.๓) กำหนดเวลาในการเข้าร่วมกิจกรรมภาคเรียนละ  ๒๐ ชั่วโมง 
                       ส่วนการจัดกิจกรรมเพื่อรับเครื่องหมายวิชาพิเศษลูกเสือ  เนตรนารี  แต่ละประเภทใช้เวลาเรียนปกติ  และนอกเวลาเรียน


                 ๒.   การจัดกิจกรรม
                       .  การจัดกิจกรรมลูกเสือ  เนตรนารีตามหลักสูตร  ควรจัดให้มีการเปิดประชุมกองทุกครั้ง  เพื่อเป็นการฝึกความมีระเบียบวินัยในตนเอง  โดยปฏิบัติตามขั้นตอน  ดังนี้
                             ๒.๑.๑  พิธีเปิด  (ชักธงขึ้น  สวดมนต์  สงบนิ่ง  ตรวจ  แยก)
                             ๒.๑.๒  เกมหรือเพลง
                             ๒.๑.๓  เรียนตามหลักสูตร
                             ๒.๑.๔  การเล่าเรื่องสั้นที่เป็นประโยชน์
                             ๒.๑.๕  พิธีปิด  (นัดหมาย  ตรวจ   ชักธงลง  เลิก)
                       .  กิจกรรมการอยู่ค่ายพักแรม 
                             การเดินทางไกลและอยู่ค่ายพักแรม  มีวัตถุประสงค์เพื่อฝึกให้ลูกเสือมีความอดทน  อยู่ในระเบียบวินัย  รู้จักช่วยตนเอง  รู้จักอยู่และทำงานร่วมกับผู้อื่น  ตลอดจนเรียนวิชาลูกเสือเพิ่มเติม  ผู้บังคับบัญชาลูกเสือจำเป็นต้องวางแผนนำลูกเสือไปเดินทางไกลและอยู่ค่ายพักแรมไว้ให้พร้อมก่อนและเนิ่น ๆ ดังนั้นบทบาทผู้บังคับบัญชาลูกเสือที่มีหน้าที่รับผิดชอบต่อลูกเสือ  ต่องาน  การอยู่ค่ายพักแรม  และตามหน้าที่ของตนเองจึงจำเป็นต้องหาโอกาสให้ลูกเสือของตนได้มีโอกาสในการอยู่ค่ายพักแรมเสมอ
                             ให้ผู้กำกับลูกเสือนำลูกเสือไปฝึกเดินทางไกล  และอยู่ค่ายพักแรมปีหนึ่งไม่น้อยกว่า ๑ ครั้ง   ครั้งหนึ่งให้อยู่ค่ายพักแรมอย่างน้อย ๑ คืน
                       .  กิจกรรมพิธีการ  สถานศึกษาควรจัดกิจกรรมพิธีการลูกเสือ  เช่น  พิธีเข้าประจำกอง  พิธีทบทวนคำปฏิญาณและสวนสนาม  พิธีถวายราชสดุดี  พิธีประดับเครื่องหมายต่าง ๆ เป็นต้น  เพื่อให้ลูกเสือมีความภาคภูมิใจและเห็นคุณค่าในการเป็นลูกเสือ
                       .  กิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์  สถานศึกษาควรส่งเสริมการจัดกิจกรรมให้ลูกเสือได้บำเพ็ญประโยชน์ตามอุดมการณ์ของลูกเสือ
                 ๓.   ผู้บังคับบัญชาลูกเสือควรผ่านการฝึกอบรมวิชาผู้กำกับลูกเสือขั้นความรู้เบื้องต้นในแต่ละประเภท
                 ๔.   สถานศึกษาควรให้มีการจัดตั้งกลุ่มหรือกองลูกเสือตามข้อบังคับคณะลูกเสือแห่งชาติ





การประเมินผลกิจกรรม
                 การประเมินผลกิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี  เป็นกระบวนการทดสอบความสามารถและพัฒนาการด้านต่าง ๆ ของผู้เรียนลูกเสือ  เนตรนารี  ซึ่งนอกจากพิจารณาความรู้ตามทฤษฎีแล้ว  ต้องพิจารณาด้านความประพฤติ  พฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมที่เน้นทักษะและการปฏิบัติต่าง ๆ ด้วย
วิธีการประเมินที่หลากหลายและการประเมินตามสภาพจริงซึ่งแบ่งการประเมินผลออกเป็น ๒ ส่วน  คือ
                 ๑.   กิจกรรมบังคับ
                       เป็นการประเมินผลกิจกรรมตามหลักสูตร  เพื่อให้ผู้เรียนผ่านเกณฑ์การติดสินเลื่อนชั้นหรือจบหลักสูตร  โดยการเข้าร่วมกิจกรรมและผ่านการประเมินตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด  มีการประเมินผลตลอดภาคเรียน / ปี  โดยวิธีการสังเกตการณ์เข้าร่วมกิจกรรม  การซักถาม  การทดสอบภาคทฤษฎีและปฏิบัติ  โดยกำหนดเกณฑ์การประเมิน  ผ่าน  และ  ไม่ผ่าน
                             ผ่าน    หมายถึง    ผู้เรียนมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมไม่น้อยกว่าร้อยละ 80
ผ่านการปฏิบัติกิจกรรม  และมีผลงาน/ชิ้นงาน/คุณลักษณะตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด
                             ไม่ผ่าน    หมายถึง    ผู้เรียนมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมน้อยกว่าร้อยละ 80  ปฏิบัติกิจกรรม  หรือมีผลงาน/ชิ้นงาน/คุณลักษณะไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด
                 ๒.   กิจกรรมพิเศษ  การประเมินผลวิชาพิเศษในแต่ละวิชา  ใช้วิธีการทดสอบทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ  ตามหลักเกณฑ์ในข้อบังคับลูกเสือแห่งชาติ













กิจกรรมชุมนุม

หลักการ
                ๑.  เป็นกิจกรรมที่เกิดจากการสร้างสรรค์และออกแบบกิจกรรมของผู้เรียนตามความสมัครใจ
           ๒.  เป็นกิจกรรมที่ผู้เรียนร่วมกันทำงานเป็นทีม  ช่วยกันคิด  ช่วยกันทำ  และช่วยกันแก้ปัญหา
            ๓.  เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของผู้เรียน
             ๔.  เป็นกิจกรรมที่เหมาะสมกับวัยและวุฒิภาวะของผู้เรียน  รวมทั้งบริบทของสถานศึกษาและท้องถิ่น

วัตถุประสงค์
                ๑.  เพื่อให้ผู้เรียนได้ปฏิบัติกิจกรรมตามความสนใจ  ความถนัด  และความต้องการของตน
                 ๒.  เพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนาความรู้  ความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์  สังเคราะห์  ให้เกิดประสบการณ์ทั้งทางวิชาการและวิชาชีพตามศักยภาพ
                 ๓.  เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนใช้เวลาให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและส่วนรวม
                 ๔.  เพื่อให้ผู้เรียนทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ตามวิถีประชาธิปไตย

ขอบข่าย
                 ๑.  เป็นกิจกรรมจัดตามความสนใจของผู้เรียน
                 ๒.  เป็นกิจกรรมที่จัดเสริมหลักสูตรสถานศึกษาในด้านความรู้และทักษะปฏิบัติของผู้เรียน
                 ๓.  สามารถจัดได้ทั้งในและนอกสถานศึกษา  และทั้งในเวลาและนอกเวลาเรียน

แนวการจัดกิจกรรมชุมนุม
                 ๑.   กรณีชุมนุมที่ยังไม่มีการจัดตั้ง  ให้ผู้เรียนร่วมกันจัดตั้งชุมนุม  และเชิญครูที่ปรึกษาร่วมกันดำเนินกิจกรรมชุมนุมตามระเบียบปฏิบัติที่สถานศึกษากำหนด
                 ๒.  กรณีชุมนุมที่มีการจัดตั้งแล้ว  ให้ครูที่ปรึกษาชุมนุมสำรวจความสนใจของผู้เรียนในการเลือกเข้าร่วมชุมนุม
                 ๓.  แต่ละชุมนุมมีการจัดประสบการณ์แลกเปลี่ยนเรียนรู้  และเผยแพร่กิจกรรม
                 ๔.  ครูที่ปรึกษากิจกรรมประเมินตามหลักเกณฑ์การประเมินผล
เงื่อนไข
                            ๑.  การจัดกิจกรรมชุมนุมในแต่ละระดับชั้น  ให้จัดตามโครงสร้างหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน  พุทธศักราช ๒๕๕๑
                            .  สมาชิกของชุมนุม   ต้องเข้าร่วมกิจกรรม  ร่วมปฏิบัติกิจกรรมและมีผลงาน/ชิ้นงาน/คุณลักษณะตามที่สถานศึกษากำหนด

การประเมินผล
                 การประเมินผลกิจกรรม  เป็นกระบวนการทดสอบความสามารถและพัฒนาการด้านต่าง ๆ ซึ่งนอกจากพิจารณาความรู้ตามทฤษฎีแล้ว  ยังต้องพิจาณาด้านความประพฤติ  พฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมที่เน้นทักษะและการปฏิบัติต่าง ๆ ด้วยวิธีการประเมินที่หลากหลาย  และการประเมินตามสภาพจริง  โดยกำหนดเกณฑ์การประเมินเป็น  ผ่าน  และ  ไม่ผ่าน
                             ผ่าน    หมายถึง    ผู้เรียนมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมไม่น้อยกว่าร้อยละ 80
ผ่านการปฏิบัติกิจกรรม  และมีผลงาน/ชิ้นงาน/คุณลักษณะตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด
                             ไม่ผ่าน    หมายถึง    ผู้เรียนมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมไม่ครบตามเกณฑ์  ปฏิบัติกิจกรรม  หรือมีผลงาน/ชิ้นงาน/คุณลักษณะไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด















กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณะประโยชน์

หลักการ
                 กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์เป็นกิจกรรมที่ต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตนเองตามธรรมชาติและเต็มตามศักยภาพ  โดยคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล  และพัฒนาการทางสมอง  เน้นให้ความสำคัญทั้งความรู้  และคุณธรรมจริยธรรม  จัดกิจกรรมโดยให้ผู้เรียนคิดสร้างสรรค์ออกแบบกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์อย่างหลากหลายรูปแบบ  เพื่อแสดงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมในลักษณะจิตอาสา

วัตถุประสงค์
                 ๑.  เพื่อให้ผู้เรียนบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อครอบครัว  โรงเรียน  ชุมชน  สังคม  และประเทศชาติ
                 ๒.  เพื่อให้ผู้เรียนออกแบบการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์อย่างสร้างสรรค์ตามความถนัดและความสนใจในลักษณะอาสาสมัคร
                 ๓.  เพื่อให้ผู้เรียนพัฒนาศักยภาพในการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
                 ๔.  เพื่อให้ผู้เรียนปฏิบัติกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธรณประโยชน์จนเกิดคุณธรรมจริยธรรมตามคุณลักษณะอันพึงประสงค์
                 ๕.  เพื่อให้ผู้เรียนมีจิตสาธารณะและใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์

ขอบข่าย
                 เป็นกระบวนการจัดกิจกรรมในลักษณะกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์  และกิจกรรมจิตอาสา  โดยผู้เรียนดำเนินการด้วยตนเองในลักษณะอาสาสมัครเพื่อแสดงถึงความรับผิดชอบ  ความดีงาม  ความเสียสละต่อสังคม  มีจิตอาสา  และมีจิตสาธารณะ

แนวการจัดกิจกรรม
                 การจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์  เน้นให้ผู้เรียนร่วมกันสำรวจและวิเคราะห์สภาพปัญหา  ร่วมกันออกแบบการจัดกิจกรรม  วางแผนการจัดกิจกรรม  ปฏิบัติกิจกรรมตามแผน  ร่วมสรุปและประเมินผลการจัดกิจกรรม  ร่วมรายงานผล  พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ผลการจัดกิจกรรม
                 การจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์  โรงเรียนบ้านสร้อยพร้าวเลือกจัดกิจกรรมหรือเข้าร่วมกิจกรรมได้ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน  กล่าวคือ   จัดกิจกรรมลักษณะโครงการ  โครงงาน  หรือกิจกรรม  หมายถึง  กิจกรรมที่ผู้เรียนนำเสนอการจัดกิจกรรมต่อโรงเรียน  เพื่อขอความเห็นชอบในการจัดทำโครงการ  โครงงาน  หรือกิจกรรม  ซึ่งมีระยะเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดที่ชัดเจน  โดยมีการจัดกิจกรรมทั้งภายในโรงเรียนและภายนอกโรงเรียน

เงื่อนไข
                 เวลาเข้าร่วมกิจกรรม  ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์อย่างต่อเนื่องทุกภาคเรียน   เน้นผู้เรียนเป็นผู้จัดกิจกรรมด้วยตนเองทุกขั้นตอนและต่อเนื่อง  โดยมีครูเป็นที่ปรึกษากิจกรรม
                 ผู้เรียนจะจัดกิจกรรมหรือแสดงพฤติกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ในเวลา  สถานที่  หรือรูปแบบของกิจกรรมใดก็ได้  โดยคำนึงถึงความเหมาะสมตามบริบทของสถานศึกษา

การประเมินผลกิจกรรม
                 การประเมินผลกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์  ผู้เรียนต้องเข้าร่วมกิจกรรมให้ครบตามกรอบเวลาในโครงสร้างของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน  พุทธศักราช ๒๕๕๑  และโครงสร้างเวลาเรียนของสถานศึกษาดังนี้
                       .   ระดับประถมศึกษา  (ป.-.๖)มีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมรวม  ๖๐  ชั่วโมง โดยมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมชั้น/ปีละ  ๑๐  ชั่วโมง
                       .  ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.๑-.๓)  มีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมรวม  ๔๕  ชั่วโมง  โดยมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมชั้น/ปีละ  ๑๕  ชั่วโมง
                       ๓.  มีผลงาน/ชิ้นงาน/คุณลักษณะตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด
                        ผ่าน     หมายถึง   ผู้เรียนมีเกณฑ์การผ่านดังนี้
                              ๑.  ผู้เรียนมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมครบตามเกณฑ์ ดังนี้
                                       ๑.๑ ปฏิบัติกิจกรรมชั้น/ปีละ  ๑๐  ชั่วโมง ในระดับประถมศึษา (ป.-.๖)
                                       ๑.๒ ปฏิบัติกิจกรรมชั้น/ปีละ  ๑๕  ชั่วโมง  ในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
                              ๒. มีผลงาน/ชิ้นงาน/คุณลักษณะตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนดคิดเป็นร้อยละ ๘๐ ทุกชั้นปี


                            ไม่ผ่าน    หมายถึง   ผู้เรียนมีเกณฑ์การไม่ผ่านดังนี้
                               ๑. ผู้เรียนมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมไม่ครบตามเกณฑ์ ดังนี้
                                        ๑.๑  ปฏิบัติกิจกรรมชั้น/ปีละต่ำกว่า  ๑๐  ชั่วโมง ในระดับประถมศึกษา  
(ป.-.๖)
                                         ๑.๒ ปฏิบัติกิจกรรมชั้น/ปีละต่ำกว่า  ๑๕  ชั่วโมง ในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
                               ๒. มีผลงาน/ชิ้นงาน/คุณลักษณะตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนดต่ำกว่า 
ร้อยละ ๘๐ ทุกชั้นปี
                         กรณีที่ผู้เรียนไม่ผ่าน  ครูที่ปรึกษาต้องให้ผู้เรียนซ่อมเสริมการทำกิจกรรมให้ครบตามกรอบเวลาที่กำหนดในโครงสร้างของหลักสูตรหรือปฏิบัติกิจกรรมอื่นที่มีจุดมุ่งหมายสอดคล้องกับกิจกรรมที่กำหนดเป็นการทดแทนและประเมินผลตามเกณฑ์ที่กำหนด




















เกณฑ์การจบหลักสูตร













เกณฑ์การจบหลักสูตรระดับประถมศึกษา

                 ๑.  ผู้เรียนเรียนรายวิชาพื้นฐานและรายวิชา/กิจกรรมเพิ่มเติมตามโครงสร้างเวลาเรียนที่หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานกำหนด
                 ๒.  ผู้เรียนต้องมีผลการประเมินรายวิชาพื้นฐานระดับคุณภาพ  ๑  ขึ้นไปทุกรายวิชา
                 ๓.  ผู้เรียนมีผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน ในระดับ  ผ่าน  ดี  หรือดีเยี่ยม
                 ๔.  ผู้เรียนมีผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ในระดับ  ผ่าน  ดี  หรือดีเยี่ยม
                 ๕.  ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและมีผลการประเมินในระดับ  ผ่าน




เกณฑ์การจบหลักสูตรระดับมัธยมศึกษา

                 ๑.   ผู้เรียนเรียนรายวิชาพื้นฐานและเพิ่มเติมไม่เกิน ๘๑ หน่วยกิต  โดยเป็นรายวิชาพื้นฐาน  ๖๖ หน่วยกิต  และรายวิชาเพิ่มเติมไม่เกิน  ๑๕  หน่วยกิต
                 ๒.  ผู้เรียนต้องได้หน่วยกิตตลอดหลักสูตรไม่น้อยกว่า ๗๗ หน่วยกิต  โดยเป็นรายวิชาพื้นฐาน  ๖๖  หน่วยกิต  และรายวิชาเพิ่มเติมไม่น้อยกว่า  ๑๑  หน่วยกิต
                 ๓.  ผู้เรียนมีผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน ในระดับ  ผ่าน  ดี  หรือดีเยี่ยม 
                 ๔.  ผู้เรียนมีผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ในระดับ  ผ่าน  ดี  หรือดีเยี่ยม 
                 ๕.  ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและมีผลการประเมินในระดับ  ผ่าน






หลักสูตรโรงเรียน

With 1 ความคิดเห็น:

1 ความคิดเห็น:

Blogger templates

ดูทีวีออนไลน์

▲Top▲